205405 จำนวนผู้เข้าชม |
Fact 1 สมดุลน้ำกับน้ำมันเป็นสิ่งสำคัญนะ
ถึงแม้ว่าเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือกันแดดบางตัวจะมีเนื้อบางเบาเอามากๆ แต่สิ่งที่เราอาจมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าก็คือในนั้นมีส่วนผสมของน้ำและ น้ำมันอยู่ ธรรมชาติของทั้งสองตัวนี้คือพยายามแยกทางใครทางมันกันเสมอ จึงต้องผสานให้เข้ากันไว้ด้วยสารก่ออีมัลชั่น (Emulsifier) โดยเฉพาะครีมบำรุง หากไว้ในที่ร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป (เช่นในตู้เย็น) จะทำให้น้ำและน้ำมันแยกตัวออกจากกันเร็วขึ้น ส่งผลถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ค่ะ ส่วนเมคอัพเนื้อผงอย่างแป้งหรืออายแชโดว์นั้นไม่ถูกกับความชื้น การเก็บในตู้เย็นจึงไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวงค่ะ
Fact 2 จะเย็น จะยื้อ ก็หยุดไม่ได้
ส่วน ในแง่ของการยืดอายุ ถึงแม้ว่าอุณหภูมิเย็นๆ จะลดการเปลี่ยนสภาพของสารประกอบบางชนิดได้ แต่ความจริงอีกด้านคือสารบางชนิดก็เสื่อมสภาพได้โดยที่ความเย็นไม่ช่วยอะไร เลย เพียงแค่กลิ่นหรือสีที่คงเดิมไม่อาจการันตีได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นยังมี ประสิทธิภาพดีและไม่มีผลเสียต่อผิว ดังนั้นควรติดวันหมดอายุให้เห็นชัดไว้บนตัวบรรจุภัณฑ์และใช้ให้หมดก่อนวัน นั้นๆ หรือหากใช้ไม่หมดก็ควรทิ้งไปก่อนอย่าเสียดายนะคะ เพราะผลเสียที่อาจตามมานั้นไม่คุ้มกันเลย
Fact 3 เชื้อโรคที่มองไม่เห็น
ความเย็นอาจยืดอายุอาหารได้เช่นเดียวกับที่ลดการก่อตัวของจุลินทรีย์ในเครื่องสำอางได้ แต่หากแช่รวมกับอาหารก็มีโอกาสปนเปื้อนของเชื้อโรคสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นจุลินทรีย์หรือแบคทีเรีย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับจุดอ่อนบางอย่างดวงตาต้องระวังพิเศษนะคะ
Tip เก็บอย่างไรให้ใช้ได้นาน
• ไม่เก็บไว้ในที่ร้อนหรือมีแดดส่องถึง เช่น ริมหน้าต่างหรือในรถยนต์
• หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วควักออกจากบรรจุภัณฑ์โดยตรง โดยใช้ไม้พายหรือช้อนสะอาดตักแทน
• ไม่กักตุนเครื่องสำอางหรือสกินแคร์โดยไม่จำเป็นและหมั่นตรวจเช็ควันหมดอายุเสมอ
ขอบคุณข้อมูลจาก DHC
บทความนี้คัดลอกและดัดแปลงจาก www.pleasehealth.comโดย ภญ. หรรษา มหามงคล
คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการเก็บรักษาเครื่องสำอาง: “จำเป็นต้องเก็บเครื่องสำอางในตู้เย็นหรือไม่???”
คำตอบ: “ไม่จำเป็น และไม่ควรอย่างยิ่ง”
เครื่องสำอางบำรุงผิว รองพื้น และกันแดด มักจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทอีมัลชั่น โดยทั่วไปจะประกอบด้วยสองส่วนที่ไม่เข้ากันคือน้ำและน้ำมัน และมีสารก่ออีมัลชัน (emulsifier) ทำหน้าที่เป็นคนกลาง พยายามทำให้น้ำและน้ำมันนั้นปรองดองกัน อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข (คือไม่แยกกันเป็นสองชั้น) ดังนั้นโดยธรรมชาติของตัวผลิตภัณฑ์เอง ทั้งน้ำและน้ำมันพยายามจะแยกตัวออกจากกันตลอดเวลา และจะยิ่งแยกตัวได้เร็วขึ้นหากผลิตภัณฑ์นั้นถูกเก็บรักษาในสภาวะที่ไม่เหมาะ สม เช่น อุณหภูมิสูงเกินไป ต่ำเกินไป หรือถูกแสงแดดโดยตรง
ในการทดสอบความคงตัวของเครื่องสำอาง เครื่องสำอางจะถูกทดสอบในสภาวะเร่ง (stress condition) ซึ่งก็คือสภาวะที่ได้กล่าวมาแล้วนั่นเอง หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น สภาวะเร่งเหล่านั้นคือ อุณหภูมิ 40 - 45 องศาเซลเซียส เป็นตัวแทนของอุณหภูมิสูง, 2-8 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิในตู้เย็นช่องธรรมดา) เป็นตัวแทนของอุณหภูมิต่ำ, วางไว้ข้างหน้าต่าง หรือในตู้ที่มีไฟส่องถึงโดยตรง แทนการเก็บไว้ในที่ที่แสงแดดส่องถึง (สภาวะนี้สามารถดูการจางของสีของผลิตภัณฑ์ได้ด้วย) และอุณหภูมิสูงๆต่ำๆ คือเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง สลับกับช่องแช่แข็ง เพื่อให้สภาวะที่เก็บยิ่ง extreme เร่งให้เกิดการไม่คงสภาพของเครื่องสำอาง หากเครื่องสำอางที่ทดสอบผ่านสภาวะเค้น เครียด และกดดันเหล่านี้ไปได้ ก็ถือว่าเครื่องสำอางน่าจะมีความคงตัวดี ทนทานกับสภาวะเหล่านี้ได้ประมาณนึง ดังนั้นสภาวะที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทั้งหมดไม่เหมาะจะเก็บรักษาเครื่องสำอาง ค่ะ
แล้วเก็บเครื่องสำอางที่ไหน ยังไงกันดีนะ? ... บริเวณที่เหมาะจะเก็บเครื่องสำอาง คือบริเวณที่ไม่ถูกแสงแดดส่องถึงโดยตรงระหว่างวัน และมีอุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส ซึ่ง ถ้าเป็นเมืองร้อนบ้านเรา ก็คือ “อุณหภูมิในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศ” เคยโดนถามต่อว่า แล้วถ้าในห้อง เช่น ห้องนอน เปิดแอร์เฉพาะตอนกลางคืนหล่ะ กลางวันมันจะร้อนไปไหม ผู้เขียนว่าถ้าวางไว้ในตู้ หรือ จุดที่ไม่ได้โดนแดดส่องโดยตรง ก็คิดว่าอุณหภูมิไม่น่าจะสูงมาก ไม่น่าจะเป็นอะไร และที่สำคัญหากเครื่องสำอางของคุณเป็นแบบกระปุก ก่อนล้วงๆควักๆขึ้นมาใช้ อย่าลืมล้างมือให้สะอาดจะได้ไม่พาเชื้อโรคลงไปเพาะพันธุ์ออกลูกออกหลานกันใน กระปุก และเมื่อใช้เสร็จแล้วควรปิดฝาให้แน่น เพราะไม่เช่นนั้น น้ำในผลิตภัณฑ์จะระเหยไปได้ สังเกตได้จากเนื้อครีมมันหด หรือลดลงเร็วกว่าที่ควร
พวกลิปสติก ลิปกลอส ก็เหมือนกันนะคะ ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง เพราะหากเก็บไว้ที่ร้อนหรือเย็นเกินไป อาจจะทำให้ลิปสติกมีเหงื่อ (sweating เห็นน้ำมันเกาะบนแท่งเป็นจุดๆเหมือนเวลาคนเหงื่อออก) ความร้อนสามารถเร่งการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำให้ผลิตภัณฑ์เหม็นหืนได้ง่าย และหากการเก็บในที่เย็นเกินไป ก็มีโอกาสที่จะทำให้พวกแว๊กซ์ตกผลึก ความแข็ง และความเปราะของแท่งเปลี่ยนแปลงไปได้ค่ะ
สำหรับเครื่องสำอางที่เป็นพวกเนื้อแป้ง ไม่ว่าจะเป็นแป้งสำหรับทาหน้า บลัช อายแชโดว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นผงแห้งอื่นๆ มีข้อแนะนำเพิ่มเติมนิดนึงว่า ควรเก็บให้ห่างจากความชื้น ดังนั้นจึงไม่ควรเก็บไว้ในห้องน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความชื้นมาก จำทำให้เครื่องสำอางของคุณดูดความชื้น และเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าที่ควรค่ะ
** เพิ่มเติมอีกนิดค่ะ สำหรับผู้ที่รักการเดินทาง นั่งรถไปใหนไกลๆและชอบเก็บครีมไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า อย่าจอดรถตากแดดนาน ครีมเสียแน่นอนจ๊ะ **
คำถามที่พบบ่อย
คำถาม : หน้าร้อนแบบนี้ อากาศทีบ้านร้อนมาก อุณหภูมิประมาณ 35 องศา ต้องเก็บครีมในตู้เย็นหรือไม่คะ
คำตอบ : อุณหภูมิ 35 องศา ตามที่เข้าใจ เป็นอุณหภูมิของอากาศของหน้าร้อน ที่คงจะเท่ากันทั่วประเทศ ถ้าห้องมีอากาศถ่ายเท มีทิศลมเข้า ลมออก ระบายอากาศได้ ไม่ใช้ห้องปิดตาย ถึงแม้อุณหภูมิจะเกิน 25 องศาก็สามารถเก็บเครืองสำอางได้ ไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็นนะคะ
คำถาม : ซื้อสินค้าตุนไว้เยอะ ขอคำแนะนำในการเก็บหน่อยค่ะ
คำตอบ :
สินค้าที่ยังไม่ได้เปิด
1.เก็บในภาชนะที่ปิดสนิท
2. แสงแดดส่องไม่ถึง
3. อากาศถ่ายเท ไม่อบอ้าว
4. ห้ามเก็บในตู้เย็น
4. ถ้าเก็บได้ตามข้อ 1-4 สินค้าจะมีอายุตามที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์
สินค้าที่เปิดใช้แล้ว
1. ควรใช้ให้หมดภายใน 6-12 เดือนนับจากวันเปิด
2. ใช้ไม่หมดควรเอาทิ้ง
3. ไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น
กรณีเป็นสินค้าขนาดกิโล ควรมีบรรจุภัณฑ์แบ่งใช้ โดยการแบ่งใช้แต่ละครั้ง ควรทำความสะอาดบรรจุภัณฑ์ให้สะอาดและแห้งสนิท ไม่เทของใหม่ผสมของเดิม