โทนเนอร์จำเป็นหรือไม่ ใช้ตอนไหน โทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี

Last updated: 16 ก.ค. 2566  |  280258 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นหรือไม่


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโทนเนอร์คือ โทนเนอร์จำเป็นหรือไม่ ทำไมต้องใช้โทนเนอร์ โทนเนอร์ใช้ตอนไหน วันนี้เรามาคุยและมาไขคำถามเหล่านี้กันค่ะ

► ความเชื่อเกี่ยวกับโทนเนอร์
บางคนตั้งแต่เกิดมาไม่เคยใช้โทนเนอร์เลย เพราะเห็นว่าไม่จำเป็น ขอให้ลบความคิดที่ว่าไม่จำเป็นออกไปก่อน เพราะความจำเป็นของโทนเนอร์ ขึ้นกับประเภท ส่วนผสมของโทนเนอร์ และสภาพผิวของแต่ละคน
สำหรับผู้ที่เชื่อว่าโทนเนอร์ไม่จำเป็น อาจเพราะคิดว่า
  1. โทนเนอร์คือผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดผิวต่อจากขั้นตอนการล้างหน้า ในเมื่อล้างหน้าสะอาดอยู่แล้ว จะต้องมาเช็ดอีกทำไม
  2. โทนเนอร์เหลวเป็นน้ำ คงไมมีสารบำรุงอะไร ก็แค่เอามาเช็คให้แน่ใจว่าสะอาด สำลีต้องดำ 
  3. โทนเนอร์มีแต่แอลกอฮอล์ เช็ดแล้วทำร้ายผิว
สำหรับผู้ที่เชื่อว่า โทนเนอร์เป็นสิ่งจำเป็น เพราะเชื่อว่า
  1. โทนเนอร์ช่วยชำระคราบมันและทำความสะอาดสิ่งตกค้างที่ล้างออกไม่หมด
  2. โทนเนอร์ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้รูขุมขนที่เปิดออกตอนล้างหน้าปิดตัว 
นี่เป็นความเชื่อที่มีต่อโทนเนอร์ในสมัยเก่า คือ เชื่อในแง่ของการช่วยทำความสะอาดผิวเป็นหลัก โดยคิดว่าการล้างหน้าตามปกติไม่สะอาดเพียงพอ บางคนเชื่อว่าโทนเนอร์ช่วยกระชับรูขุมขน และอีกหลายคนตั้งธงว่าโทนเนอร์คือผลิตภัณฑ์เช็ดหน้าที่มี แอลกอฮอล์

จริงอยู่ที่โทนเนอร์ในสมัยเก่า มักมีวัตถุประสงค์เพื่อเน้นชำระความมัน โดยผสมแอลกอฮอล์ในสูตร สังเกตได้ง่ายๆเลยคือ เมื่อเช็ดจะรู้สึกเย็นสดชื่น ชำระความมันออกได้ดี หน้าแห้งเบา ซึ่งบางคนชอบฟีลลิ่งตรงนี้เพราะรู้สึกมั่นใจไปอีกขั้นว่าผิวสะอาดมากกว่าเดิม แต่โทนเนอร์สมัยใหม่ พัฒนาไปแล้ว ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

► ความจริงเกียวกับโทนเนอร์ที่ควรรู้
1.โทนเนอร์ไม่ได้ผสมแอลกอฮอล์เสมอไป
2.การจะบอกว่าโทนเนอร์จำเป็นหรือไม่ ควรจะดูที่ส่วนผสมเป็นหลัก
3.โทนเนอร์ที่ดีไม่ควรมีแอลกอฮอล์ผสม ถ้ามี ควรมีใน % ที่น้อยๆหรือไม่มีจะดีที่สุด
4.โทนเนอร์ที่ดี ควรมีคุณสมบัติหลักๆในการ เติมน้ำให้ผิว  ปรับ pH ของผิวมาที่สภาวะกรดอ่อน ซึ่งเป็นสภาวะปกติของผิวตามธรรมชาติ คือที่ pH 5-7 (เฉลี่ย 5.5) และมีส่วนผสมที่บรรเทาอาการ ระคายเคือง

►ทำไมต้องเติมน้ำให้ผิวหลังล้างหน้า
แม้ว่าผลิตภัณฑ์ล้างหน้าในปัจจุบันจะมีตัวเลือกหลากหลาย และพยายามปรับให้อ่อนโยนมากขึ้น แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่า ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เราใช้อยู่ มันอ่อนโยนจริง ถ้าเลือกไม่เป็น ดูส่วนผสมไม่เป็น เราก็อาจกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่จัดว่าเป็น " สบู่ " เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบก้อน ก็เป็นได้  เช่น สบู่เหลว ที่เรียกให้สวยว่า ครีมอาบน้ำ หรือแม้แต่สบู่ที่อยู่ในรูป โฟมล้างหน้า  แม้ว่าในสูตรจะถูกเติมสารให้ความชุ่มชื้นเช่น กลีเซอรีนเข้าไปช่วย แต่ความเป็นด่างของสบู่ก็ยังรบกวนผิวอยู่ดี

ในขั้นตอนการล้างหน้า น้ำมันที่เคลือบผิวจะถูกชะล้างออกไป มากหรือน้อยขึ้นกับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เราใช้ ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ชะล้างรุนแรง ก็จะชะน้ำมันออกไปได้มาก ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ปริมาณสูง ก็จะชะล้างน้ำมันออกไปได้น้อยกว่า แถมล้างแล้วรู้สึกผิวลื่นๆเหมือนล้างไม่ออกอีก ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่ดีเลย ล้างไม่สะอาดเลย แล้วก็พยายามหาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ล้างแล้วเกลี้ยง ตึงผิว ยิ่งตึงยิ่งสะอาด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก

ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่คุณใช้อยู่จะล้างสะอาดจนผิวตึง หรือว่าสะอาดพอประมาณและหลงเหลือความลื่นของผิวไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับผิวของคุณในช่วงหลังล้างหน้าจะคล้ายๆกันคือ น้ำใต้ผิวจะระเหยออกอย่างรวดเร็ว ยิ่งปล่อยหน้าไว้นานโดยไม่รีบเติมความชุ่มชิ้น ผิวจะยิ่งแห้ง และผิวจะเริ่มขับน้ำมันออกมาเคลือบผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำใต้ผิว นี่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุุที่ทำให้บางคนเกิดปัญหาที่ว่า ทำไมล้างหน้าเสร็จไม่นาน ผิวก็มันแล้ว 
 
ดังนั้น หลังล้างหน้าทุกครั้ง ควรมีการปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติปรับค่ากรดด่างและเติมน้ำให้ผิว จะช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ เมื่อผิวอิ่มน้ำและชุ่มชื้น ผิวจะดูดซึม "เซรั่ม ครีม" ที่เราเตรียมจะลงในขั้นตอนต่อไปได้เป็นอย่างดี  

เคยสังเกตมั้ยคะว่า ทำไมบางช่วงเราทาครีมแล้วครีมไม่ลงผิว เคลือบแต่บนๆ ตื่นมาหนัามันเยิ้ม เผลอๆอุดตันเป็นสิวอีกต่างหาก ยิ่งถ้าหากซื้อครีมมาแพง แต่ครีมไม่ซึมนี่ ทำให้รู้สึกว่าครีมไม่ดี ไม่สมราคา  แท้จริงแล้ว อาจเป็นเพราะผิว ณ ขณะนั้นของเรา แห้งกร้าน ขาดความชุมชื้น เมื่อทาครีม โลชั่น ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ทำให้การดูดซึมของน้ำมันเป็นได้ได้ยากและบางรายเกิดการตกค้างของน้ำมันตามรูขุมขนกลายเป็นสิวอุดตัน

ในตำราแพทย์ผิวหนังญี่ปุ่น ได้เขียนไว้ว่า ผิวที่ชุ่มชื้นพอดี จะช่วยเพิ่มการดูดซึมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ดี  ในทางกลับกัน ผิวที่แห้งเกินไปหรือมันเกินไป การดูดซึมก็จะแย่ลง หลักการบำรุงผิวของสกินแคร์ของญี่ปุ่น จึงมีขั้นตอนในการเติมน้ำให้ผิวหลังล้างหน้าเสมอ

นอกจากความชุ่มชื้นจะช่วยในแง่การดูดซึมครีมแล้ว ความชุ่มชื้น ยังทำให้เซลล์ผิวพองตัว ส่งผลให้รูขุมขนซึ่งอยู่ตรงจุดตัดของเซลล์ผิวถูกเบียดให้แน่น รูขุุมขนจึงดูแคบลง อีกทั้งการพองตัวขึ้นของเซลล์ผิว ทำให้ผิวหนังชั้นนี้ดูหนาขึ้น สูงขึ้น การลำเลียงน้ำมันออกมาตามรูขุมขนเพื่อมาเคลือบผิว จะใช้เวลานานขึ้น คนที่มีผิวชุ่มชื้นพอดี จึงมักไม่มีปัญหาผิวมันเร็ว


► เวลาก็สำคัญ..นะ !!!


ที่ผ่านมา...ลองจับเวลาดูคะว่า นับจากที่คุณซับหน้าให้แห้ง จนถึงตอนที่คุณใช้โทนเนอร์เช็ดหรือมาส์กหน้า ห่างกันกี่นาที.. ถ้าคุณปล่อยเกิน 3 นาที ผิวของคุณอาจเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิวไปแล้ว การมาส์กหน้าจะได้ประโยชน์น้อยลง และถ้าเป็นการเช็ดธรรมดา ยิ่งไม่ได้ประโยชน์เลย มาปรับรูปแบบการบำรุงผิวกันใหม่ค่ะ

ตอนเช้า  :  อาบน้ำ แปรงฟัน ให้เรียบร้อย แล้วค่อยมาสู่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า อาจจะล้างด้วยน้ำเปล่า สำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้ง หรือล้างด้วยผลิตภัณฑ์หมวดล้างหน้าที่เหมาะกับผิว > ซับหน้าเบาๆให้แห้ง อย่าปล่อยให้น้ำเปียกอยู่บนผิว แล้วรอระเหยแห้งไปเอง > ต่อด้วยการมาส์กหน้าด้วยโทนเนอร์ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว> ตามด้วยการลงครีมบำรุง ครีมกันแดด ต่อๆกัน ให้เรียบร้อยในคราวเดียว

ตอนเย็น : เริ่มด้วยการทำความสะอาดเมคอัพก่อนด้วยผลิตภัณฑ์ หมวดล้างเมคอัพ  > อาบน้ำ > แปรงฟัน >  แล้วมาจบที่การล้างหน้าอีกรอบด้วยผลิตภัณฑ์หมวดล้างหน้า  > เข้าสู่ขั้นตอนการมาส์กหน้าด้วยโทนเนอร์  และบำรุงผิวต่อไป

สิ่งที่ไม่ควรทำคือ เริ่มล้างเมคอัพ + ล้างหน้า +ซับหน้าแห้ง แล้วถึงไป อาบน้ำ แปรงฟัน รู้หรือไม่ว่าระหว่างที่เราอาบน้ำ น้ำใต้ผิวหน้าก็ระเหย หน้าก็แห้งไปเรียบร้อย พอไปมาส์กโทนเนอร์ก็ไม่ทันแล้วค่ะ

 
► โทนเนอร์สูตรไหนนะที่เติมน้ำให้ผิวได้ดี
แนะนำโทนเนอร์สำหรับผิวแห้ง centella toner สูตรใบบัวบก 

 

วิธีการใช้  ช่วงเข้ามีเวลาน้อยรีบไปทำงาน  ให้ใช้วิธีตบโทนเนอร์เบาๆเข้าผิวโดยตรง  และใช้ฝ่ามือแนบกดไปที่ผิวหน้าเป็นการปิดท้าย ความอุ่นบนฝ่ามือจะช่วยผลักเนื้อโทนเนอร์เข้าผิวได้มากขึ้น ช่วงเย็น เป็นช่วงที่มีเวลา ให้ใช้วิธีมาส์กหน้าด้วยสำลี (cotton mask)
 
 
 ► เป็นคนผิวมันอยู่แล้ว ใช้โทนเนอร์สูตรเติมน้ำได้หรือไม่

ได้ค่ะ เพราะการเติมน้ำให้ผิว เป็นคนละส่วนกับการเติมน้ำมันให้ผิว โดยทั่วไปโทนเนอร์คือผลิตภัณฑ์ที่มี เบสเป็นน้ำ ผสมกับสารนำพา มอยเจอร์ไรเซอร์และสารสกัดต่างๆ ที่ละลายในน้ำ โดยไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมคนผิวมันจึงใช้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีปัญหา " ผิวมันขาดน้ำ" การปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์สูตรเติมน้ำมีส่วนสำคัญอย่างมากในการบำรุงผิว 

 ► โทนเนอร์ที่ช่วยเติมน้ำสำหรับคนผิวมันใช้ตัวไหนดี

แนะนำโทนเนอร์ทับทิม ช่วยปรับสมดุลผิวและบำรุงผิวในตัว คลิกที่รูปภาพเพื่ออ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้