ผิวแพ้ง่าย เคลียร์ทุกประเด็น บทความโดยเภสัชกร

Last updated: 25 ก.ค. 2565  |  81613 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ผิวแพ้ง่าย เคลียร์ทุกประเด็น บทความโดยเภสัชกร

คำถามที่พบบ่อยเกี๋ยวกับ ผิวแพ้ง่าย

คำถามที่ 1: อาจารย์ขา มีเครื่องสำอางยี่ห้อนึงนะคะ หนูใช้ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะใช้ตัวไหน ใช้ทีไรแพ้ทุกทีเลยค่ะ เพื่อนหนูบอกว่ายี่ห้อนี้มันแรง อาจารย์ว่าจริงมั้ยคะ ?
A1: “แรง” อืมมมม... คำนี้อาจจะเป็นคำที่หลายๆคนใช้เพื่ออธิบายเครื่องสำอางที่ตัวเองแพ้ แต่ในความจริงแล้ว คำนี้ไม่มีนัยทางวิทยาศาสตร์เลย การแพ้เครื่องสำอาง หรือสารใดๆ เป็นปฏิกิริยาของแต่ละบุคคล ต่อสารแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ หรือสารที่ได้จากการสังเคราะห์ ดังนั้นหากเครื่องสำอางชนิดใด ระบุว่ามาจากธรรมชาติ 100% หรือ All Natural ก็ไม่ได้หมายความว่าใช้แล้วจะการันตีได้ว่าไม่มีโอกาสที่จะก่อให้เกิดการแพ้ ขณะเดียวกันเครื่องสำอางที่มีสารสังเคราะห์เป็นส่วนประกอบ ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดการแพ้เสมอไป


คำถามที่ 2: แล้วทำไมหนูใช้ยี่ห้ออื่นแล้วไม่เคยแพ้ แต่ยี่ห้อนี้ใช้ทีไรแพ้ทุกทีล่ะคะ ?
A2: น่าจะเป็นเพราะว่า เครื่องสำอางแต่ละยี่ห้อ มีสารที่ใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางแต่ละรุ่น แต่ละแบบ คล้ายๆกันค่ะ ยกตัวอย่างเช่น สารกันเสีย (preservative) ถ้าบริษัทไหน เลือกใช้สารกันเสียชนิดไหนแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็มักจะใช้ตัวนั้นกับสินค้าของบริษัทเค้าหลายชนิด เนื่องจากเลือกมาดีแล้วว่าเหมาะสมทั้งคุณภาพ ราคา และง่ายต่อการจัดซื้อด้วย เท่ากับว่าวัตถุดิบชนิดหนึ่ง ซื้อมาทีเดียว สามารถใช้ได้กับผลิตภัณฑ์หลายๆชนิด แต่ถ้าเกิดแจ๊กพ๊อต เราแพ้สารตัวนี้ขึ้นมา ไม่ว่าเราจะลองสินค้าชนิดใดของบริษัทนี้ที่มีสารตัวที่เราแพ้ เราก็จะแพ้ไปหมด ทำให้รู้สึกว่าแพ้ยกยี่ห้อ แค่เห็นชื่อโลโก้ยี่ห้อนี้ ก็เริ่มมีอาการแพ้ละ (อันนี้เว่อร์ไปนิด หุหุ)


คำถามที่ 3 : ว้า อย่างนี้ก็แย่สิคะ หนูกลัวแพ้อ่ะ ไม่อยากจะลองผิดลองถูกเลย แบบนี้จะเลือกเครื่องสำอางยังไงให้ไม่แพ้ มีวิธีมั้ยคะ ?
A3: การสังเกต และการอ่านฉลาก จะช่วยให้เราเสี่ยงต่อการแพ้เครื่องสำอางได้น้อยลงนะคะ เริ่มจากหากใช้อะไรแล้วแพ้ ต้องลองอ่านฉลากดูว่ามันมีสารอะไรบ้าง ปัจจุบันกฎหมายเครื่องสำอางบังคับแล้วว่าต้องมีการระบุชื่อสารที่ใช้เป็น ส่วนประกอบในเครื่องสำอางบนฉลาก ซึ่งเป็นกลยุทธหนึ่งในการคุ้มครองผู้บริโภค แต่ผู้บริโภคก็ต้องสังเกตเองด้วยค่ะ จริงอยู่ที่ชื่อสารที่ระบุในฉลากนั้นเป็นชื่อทางเคมี ซึ่งก็อ่านยาก ออกเสียงก็ยาก แถมอ่านแล้วไม่รู้อีกว่ามันหมายถึงอะไร แต่เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกตัวหรอกค่ะ ลองสังเกตสารพวกที่ก่อให้เกิดการแพ้ได้บ่อยๆก่อนก็ได้ว่า สารพวกนี้ได้แก่ สารลดแรงตึงผิวหรือสารชำระล้าง สารกันเสีย น้ำหอม และ สารกันแดด




คำถามที่ 4 : ใช้เครื่องสำอางแล้วสิวขึ้น แสดงว่าแพ้หรือเปล่า?
A4 : ถ้าเกิดคุณเปลี่ยน Skincare ตัวใหม่ แล้วบังเกิดสิวผุดขึ้นให้เป็นเสี้ยนหนามหัวใจ ก็อย่าพึ่งตีโพยตีพายไปว่าคุณ “แพ้”
สิว ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการ “อุดตัน” ซึ่ง มีสาเหตุมาจากผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้นั้นไม่เหมาะสมกับสภาพผิว อาจจะมีความเข้มข้นมากเกินไป มีปริมาณน้ำมันหรือแว๊กซ์ที่ทำให้ผิวอุดตันได้ง่าย
บ่อยครั้งที่สิวจากเครื่องสำอางเกิดขึ้นเพราะการดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง ตั้งแต่ทำความสะอาดไม่ดีพอ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วย Exfoliate ผิวจนผิวมีเซลล์ผิวเสื่อสภาพสะสมอยู่หนาตัวทำให้ผิวอุดตันได้ง่าย แต่ถ้าสิวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการอักเสบบวมแดงเสียเป็นส่วนใหญ่ ก็เป็นไปได้สูงว่าเกิดขึ้นจากอาการแพ้

คำถามที่ 5: ใช้ Skincare แล้วรู้สึกแสบผิว คันยิบ ๆ แปลว่าแพ้รึเปล่า?
A5: อาการแสบแดงส่วนใหญ่จะเป็น “การระคายเคือง” แต่อาการคัน ยิบ ๆ แสบเล็กน้อย ขณะใช้ Skincare บางชนิดนั้นเป็น "อาการปกติ"
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH เป็นกรดอย่าง Vitamic C ในรูป Ascorbic Acid หรือ AHAs หรือ BHA ก็จะทำให้ผิวรู้สึกยิบ ๆ ได้บ้าง อาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อผิวปรับค่า pH เป็นกลางได้แล้ว และเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ติดต่อกันสัก 1 – 2 สัปดาห์ อาการแสบยิบๆ ก็จะน้อยลงหรือหายไปเลยก็ได้
ในกรณีที่คุณใช้ยารักษาสิวที่มีคุณสมบัติเป็น Keratolytic อย่าง Tretinoin หรือ Benzoyl Peroxide ไป สักระยะหนึ่งก็อาจมีอาการระคายเคือง แห้ง ลอก เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่การแพ้ เมื่อทามอยซ์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นก็จะรู้สึกแสบผิว บางทีอาจจะแสบมาก แต่อาการเหล่านี้ก็จะหายไปในไม่นาน
แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้ยารักษาสิวหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHAs / BHA แล้ว เกิดอาการแสบ คัน แม้เวลาจะผ่านไปสักพักอาการนี้ก็ยังคงอยู่ แปลว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้มีสารก่อการระคายเคืองผสมอยู่ ให้ล้างออกและหยุดใช้ทันที (ทางที่ดีควรอ่าน Ingredient List ให้ละเอียดก่อนซื้อมาใช้)


แพ้ครีม สิวขึ้น

คำถามที่ 6 : ใช้ โทนเนอร์หรือมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นและ Sooth (สมาน ประโลม) ผิวได้ดี แต่มีกลับรู้สึกร้อนวูบไปทั่วบริเวณที่ใช้ หมายความว่าแพ้รึเปล่า?
A6 : ถ้าผิวของคุณในตอนนั้นขาดความชุ่มชื้น แห้ง หรือมีอาการระคายเคืองจากการใช้ยารักษาสิวอย่าง Tretinoin หรือ Benzoyl Peroxide หรือใช้ Scrub ขัดผิวที่หยาบหรือใช้แรงมากไป หรือใช้ AHA / BHA ที่ เข้มข้นเกินไป เมื่อมาเจอผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูงหรือช่วยต้านการระคายเคืองได้ดีจะ มีอาการร้อนผ่าว หรือร้อนวูบวาบ อาจมีอาการแสบยิบ ๆ เล็กน้อยร่วมด้วย เมื่อผ่านไปไม่กี่นาทีอาการเหล่านี้จะหายไปเอง และเมื่อผิวคุณแข็งแรงเป็นปกติปราศจากความแห้งกร้านหรือระคายเคือง ผลิตภัณฑ์ตัวเดิมนั้นก็จะไม่ทำให้ผิวรู้สึกร้อนวูบวาบอีกแล้ว (แต่ถ้าผิวคุณมีอาการระคายเคืองหรือแห้งกร้านขึ้นมาทีหลัง ก็จะรู้สึกร้อนวูบวาบหรือยิบ ๆ อีก) ถ้าเป็นอาการแพ้นั้นจะต่างไปโดยสิ้นเชิง คือจะเริ่มคันหรือแสบแดงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และต่อให้ล้างออกแล้วอาการแสบแดงก็จะยังคงมีอยู่

คำถามที่ 7: จะลองใช้ครีมที่ซื้อมาใหม่ มีวิธีทดสอบอย่างไร ว่าเราจะแพ้มั๊ย ?
A7:  วิธีทดสอบครีมว่าแพ้ไหม ง่ายๆ ทำดังนี้ค่ะ  ทาผลิตภัณฑ์นั้นบางๆ บริเวณท้องแขนด้านใดด้านหนึ่ง วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น (ทาจุดเดิมทุกครั้ง) ติดต่อกัน 3 วัน  (หรือเพิ่มเป็น 7 วันเพื่อความแน่นอน) ถ้ามีผื่น บวม แดง คัน ภายใน 7 วันก็สามารถหยุดได้และสรุปได้ว่าคุณอาจแพ้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ  ห้ามเอามาทาหน้าเด็ดขาด
วิธีนี้เป็นการทดสอบเบื้องต้น โดยดูผลที่ 7 วัน  แต่ก็มีรายงานว่าการแพ้บางอย่างในบางคนใช้เวลานานกว่านั้น เช่นเริ่มมีอาการแพ้หลังใช้ไปแล้วหลายเดือนหรือเป็นปีและหลังจากนั้นก็มีอาการทุกครั้งที่ใช้  (หมายถึงถ้าได้แพ้แล้ว ใช้ซ้ำอีกกี่ครั้งก็แพ้ตลอด)


วิธีทดสอบการแพ้ครีมด้วยตัวเอง
 
คำถามที่ 8 : สารอะไรบ้างที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ?
A8 : สารจำพวกแอลกอฮอล์ทั้งหลาย เช่น  ethanol, denatured alcohol, ethyl alcohol, methanol, benzyl alcohol, isopropyl alcohol, sd alcohol
สารจำพวก BHA, AHA เช่น กรดผลไม้ทุกชนิด , willow bark extract
สารจำพวกชะล้างทำความสะอาด :   Sodium Lauryl Sulfate (SLS)
Note : อย่าลืมว่าการระคายเคือง ขึ้นกับปัจจัยอื่นด้วย เช่นความสมบูรณ์แข็งแรงของผิวหนัง ถ้าคุณดูแลผิวดี สารพวกนี้ก็ทำอะไรคุณไม่ได้


คำถามที่ 9: ครีมที่ผสมสมุนไพร 100%  ใช้แล้วจะไม่แพ้จริงหรือเปล่าคะ ? 
A9: ก่อนตอบคำถาม ขออธิบายก่อนค่ะว่า ในโลกนี้ไม่มีเครื่องสำอางที่ไหนสามารถผลิตจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์  ครีมบรรจุเสร็จ (หมายถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่บรรจุกระปุก ขวด วางขาย) ทุกอย่างล้วนมีสารเคมีเป็นส่วนผสม  ไม่ว่าจะอยู่ในรูปครีม เซรั่ม เจล โลชั่น โทนเนอร์ ก็ต้องมี เบส และ สารช่วย สารเติมแต่ง เพื่อให้ขึ้นรูปเป็นเนื้อที่ต้องการและวางขายนานได้โดยไม่บูด เบส  สารช่วย สารเติมแต่งเหล่านั้นเป็นสารเคมี  ฉะนั้นหยุดหลงเชื่อคำกล่าวอ้างที่ว่า ครีมเราเป็นสมุนไพร 100%

เข้าคำตอบสำหรับคำถามที่ถามมา :  การแพ้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าส่วนผสมที่ใช้ในเครื่องสำอางมาจากธรรมชาติหรือจากการสังเคราะห์  จะสกัดมายังไง ได้มาจากไหน จากเทือกเขาสูงเสียดฟ้า หรือมหาสมุทรที่ลึกสุดๆ ถ้าเราแพ้ก็คือแพ้   การแพ้เป็นปฏิกิริยาตอบสนองทางภูมิคุ้มกันส่วนบุคคล  เราจะไม่มีทางทราบได้ว่าเราจะแพ้อะไร ไม่แพ้อะไร จนกว่าเราจะได้ลองใช้ ในการใช้ครั้งแรกจะไม่แสดงอาการแพ้ เพราะภูมิคุ้มกันอาจยังไม่ถูกกระตุ้น เมื่อมีการใช้ซ้ำจึงจะแสดงอาการให้เห็น ซึ่งอาจจะเป็นครั้งที่ 2,3 ,...  และห่างจากการใช้ครั้งแรกเป็นวัน เดือน ปี  ก็ได้ค่ะ ไม่มีอะไรบอกได้ตายตัว บางคนใช้วันที่ 1-5 ไม่เป็นไร พอวันที่ 6 เริ่มแพ้ บางคนใช้วันนี้ไม่เป็นไร พรุ่งนี้จึงเริ่มแพ้  ระยะเวลาการเริ่มแสดงอาการแพ้ที่ต่างกันนี้เป็นเพราะระยะเวลาที่ภูมิคุ้ม กันถูกกระตุ้นในแต่ละคนกินเวลาต่างกัน

ประโยคนี้เครติด คุณ Pupe So Sweet
 ทุกอย่าง ในโลกคือองค์ประกอบทางเคมี รวมทั้งสารสกัดจากธรรมชาติด้วย อย่าไปเข้าใจผิดว่าสารสกัดจากธรรมชาติไม่ใช่สารเคมีไม่ทำให้แพ้ อย่างที่โฆษณาและพวกคนขายเครื่องสำอางมักพูดกัน  


ครีมสมุนไพร ใช้แล้วไม่แพ้จริงหรือ


Q10 : เป็นคนแพ้ง่ายค่ะ ใช้ครีมอะไรๆ หน้าจะดีได้สักพัก จากนั้นก็จะเป็นสิวผดทั่วหน้า (ไม่คัน ไม่มีผื่น) เปลี่ยนเครื่องสำอางกี่แบรนด์ๆก็เป็นแบบเดิมตลอด แนะนำผลิตภัณฑ์ให้หน่อยค่ะ?
A10:  ลักษณะดังกล่าวไม่ใช่การแพ้ง่าย และไม่ได้ระคายเคืองง่ายด้วย แต่เข้าใจผิดว่าตัวเองแพ้ง่าย ลักษณะที่แจ้งมาเป็นอาการของการมีเซลล์ผิวเสื่อมสภาพมากเกินไป  อาจจะข้าม step ผลัดเซลล์ผิว เครื่องสำอางที่ใช้อาจจะมีส่วนในการอุดตันบ้างทำให้เกิดเป็นสิวผด แต่ถ้าผลัดเซลล์ผิวดี ขั้นตอนการดูแลผิวถูก การอุดตันจากเครื่องสำอาง เกิดได้น้อยมาก อีกสาเหตุของการเป็นสิวผดเป็นๆหายๆคือ เรื่องของรอบเดือนค่ะ  ในวันที่ไข่ตก จนถีงวันที่ประจำเดือนมา (รวม 14 วัน สำหรับคนที่ประจำเดือนมาทุก 28 วัน) ให้ลองสังเกตใบหน้า จะพบได้ว่า เป็นช่วงที่หน้าหมองคล้ำ กร้าน และมีสีวผดมาจากไหนไม่รู้ขึ้นเกือบทั่วหน้า โดยเฉพาะ t-zone  ไม่กลายเป็นสิวอุดตันเม็ดใหญ่ ไม่อักเสบด้วย ชวนให้รำคาญอย่างยิ่ง  พอประจำเดือนมา อาการเหล่านี้ก็จะหายไปค่ะ  

Q11 :  ครีมที่มี อย. ใช้แล้วจะไม่แพ้ ?
A11 :การจดแจ้งสูตร อย. และการแพ้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
การจดแจ้งสูตร อย. โดยหลักการแล้วเป็นการแจ้งรายละเอียดส่วนผสมในสูตรแบบครบถ้วนเพื่อแสดงให้ทราบว่า ไม่มีส่วนผสมที อย.ห้ามใส่  จากนั้น อย.ก็จะอนุมัติให้เลขที่จดแจ้งมากำกับที่ตัวสินค้าส่วน การแพ้ เป็นปฎิกิริยาส่วนบุคคล แม้ว่าส่วนผสมที่ใส่จะได้รับอนุญาตจาก อย. แล้ว ก็อาจจะทำให้แพ้ได้  แม้แต่สารสกัดว่านหางจระเข้ ที่ร่ำลือกันว่าใช้รักษาอาการแพ้ ก็ยังมีคนที่ใช้แล้วแพ้  สารกันเสียกลุ่มพาราเบน ทั่วโลกยังใช้กัน รวมถึง อย.ไทยก็ยังอนุญาตให้ใส่ ก็ยังมีคนแพ้ ไม่มีใครทราบว่าจะแพ้หรือไม่จนกว่าจะได้ลองใช้ ถ้าเราเป็นคนแพ้ง่ายไม่เหมือนคนอื่น ก่อนจะใช้อะไรใหม่ๆในครั้งแรกให้ทดสอบการแพ้ก่อนเสมอ

ผู้ประกอบการบางราย แจ้งสูตรต่อ อย.อีกอย่าง แต่ใส่อีกอย่างก็มี ร้ายกว่านั้นอาจมีการผสม steroid และสารปรอท ไฮโดรควิโนนด้วย ต้องระวังกันให้มากนะคะ 
ครีมมี อย. ก็แพ้ได้

ที่มา
คำถามที่1-3 : โดย อ.ขิม ภญ.หรรษา มหามงคล
คำถามที่4 -6 : คัดลอกจากบลอกคุณ Pupe So Sweet
คำถามที่7-11 : เรียบเรียงโดยฟาร์มาบิวตี้แคร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้